เลือกสมัครงานที่รับเด็กจบใหม่อย่างเดียวไม่พอครับ เพราะถ้าคนมีประสบการณ์สมัครงานนั้นเข้ามา โอกาสได้สัมภาษณ์ของน้องก็ลดลงแล้ว
แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะจริง ๆ น้องมีทักษะความสามารถที่พร้อมทำงานไม่แพ้รุ่นพี่หรอกครับ มันอยู่ที่ว่า น้องจะเอาของที่มีอยู่มาโชว์ในเรซูเม่ครบถ้วนสมบูรณ์และน่าสนใจได้รึเปล่า แล้วเลือกสมัครงานที่สอดคล้องกับความสามารถของตัวเองมากแค่ไหน มันคือเคล็ดลับเด็ดที่ JOBBKK จะพาน้องไปดูการเลือกสมัครงานที่เพิ่มโอกาสให้ถูกเรียกสัมภาษณ์ โดยเรียงจากมากไปน้อยครับ
1 งานตรงสาขาที่เรียน – ฝึกงาน : ประสบการณ์สำคัญของเด็กจบใหม่ คือ การฝึกงาน รวมถึงงานพิเศษที่ทำระหว่างเรียน ถ้าเคยทำต้องระบุลงไปครับ ส่วนน้องที่ไม่มีข้อมูลนี้ ก็ถือว่ามีใบปริญญา แต่ขาดประสบการณ์ ซึ่งเป็นเรซูเม่ที่หางานยากที่สุดเลยครับ
น้องที่ฝึกงานตรงสาขาที่เรียน ให้เลือกสมัครงานสาขานั้นเลย ไม่ต้องคิดให้ปวดหัวว่าจบมาจะทำงานอะไร การมีวุฒิและประสบการณ์ตรง ถือว่าได้เปรียบสูงสุดเลยครับ ทุกองค์กรล้วนต้องการคุณสมบัติแบบนี้ แต่มักจะหายากในบางสายงาน และเมื่อน้องคือคนนั้น อย่ารอช้าครับ !!
2 งานตรงสาขาฝึกงาน แต่ไม่ตรงสาขาที่เรียน : ฝึกงานไม่ตรงสาขาที่เรียน ไม่ต้องห่วง หลายบริษัทให้ความสำคัญที่ประสบการณ์ครับ แต่ต้องลงรายละเอียดจากการฝึกงานที่แสดงให้เห็นว่า น้องได้จับงานอะไรบ้าง ได้ใช้ทักษะอะไร ได้ใช้เครื่องมือใดในการทำงาน เพื่อการันดีความพร้อมในการทำงานให้มากที่สุดด้วย อย่าเขียนสั้น ๆ เช่น บอกแค่ว่า ได้ทำงานการตลาดออนไลน์ แบบนี้คือจบเลย ต้องระบุรายละเอียดเป็นข้อ ๆ ครับ
ตัวอย่าง ฝึกงานในตำแหน่ง การตลาดออนไลน์ บริษัท A ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2021 – 30 เม.ย. 2021
หน้าที่ความรับผิดชอบ
1 คิดและเขียนคอนเทนต์สำหรับลงสื่ออนไลน์ Facebook ของบริษัท เพื่อโปรโมทสินค้าเสื้อผ้า
2 ตอบ Inbox ในเพจ Facebook และนำปัญหายอดฮิตที่ได้จากลูกค้ามาเขียนคอนเทนต์ตอบคำถาม เพื่อโพสต์ลงเพจและเว็บไซต์บริษัท
3 ทำรายงานสถิติการเข้าถึงและมีส่วนร่วมของแฟนเพจใน Facebook และนำมาวิเคราะห์เพื่อทำแผนงานการเขียนคอนเทนต์ให้น่าสนใจมากขึ้น
3 งานที่เปิดรับทุกสาขาที่เรียน : เช่น ที่ระบุว่า วุฒิป.ตรี ทุกสาขา ซึ่งจริง ๆ งานแบบนี้ไม่ง่ายนะครับ ไม่ใช่แค่มีวุฒิป.ตรี ก็ส่งไปสมัคร มีสิทธิ์ได้สัมภาษณ์เลย เพราะ HR ต้องเลือกด้วยครับว่าผู้สมัครเคยทำอะไรมาบ้าง
น้องต้องระบุทั้งประวัติการศึกษาให้ชัดเจน ชื่อสถาบัน ,คณะ/สาขาที่เรียน ,วุฒิการศึกษา ,เกรดเฉลี่ย เพื่อยืนยันว่ามีวุฒิตรงตามที่เขากำหนด และระบุรายละเอียดประสบการณ์ (เช่นเดียวกับตัวอย่างในข้อ 2 ) ซึ่งถ้าขาดส่วนนี้ไป ก็ไม่มีอะไรดึงดูดให้อยากสัมภาษณ์เลยครับ
4 งานตรงสาขาที่เรียน แต่ไม่ตรงสาขาฝึกงาน : ลักษณะก็คือ งานที่ระบุว่า “ยินดีรับผู้ไม่มีประสบการณ์” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับน้องที่ฝึกงานไม่ตรงสาขา แม้โอกาสสัมภาษณ์จะน้อยกว่า แต่ก็เลือกสมัครได้ครับ เพื่อโอกาสที่มากขึ้น เมื่อเทียบกับการเลือกสมัครงานที่ตรงสาขาฝึกงานเพียงอย่างเดียว
แต่ขอย้ำว่า ต้องระบุทั้งประวัติการศึกษาและรายละเอียดประสบการณ์ให้ครบถ้วนเช่นเดิม มันคือเทคนิคพื้นฐานของการเขียนเรซูเม่อยู่แล้วครับ
ทั้งนี้ แม้ประสบการณ์การฝึกงานจะไม่ตรง แต่มันคือสิ่งที่การันตีว่าน้องมีทักษะทางด้านอารมณ์ (Soft Skills) ที่พร้อมร่วมงานกับคนอื่นได้ดี ซึ่งสำคัญต่อการขับเคลื่อนทักษะเฉพาะทาง (Hard Skills) ออกมาสร้างผลงานให้มีประสิทธิภาพได้สูงสุด ดังนั้น คนที่ไม่ระบุประสบการณ์อะไรมาเลย ก็จะถูกมองว่าไม่พร้อมทำงาน เรซูเม่ก็ตกไปครับ
เทคนิคการเขียนประสบการณ์ในเรซูเม่แบบลงรายละเอียด เพิ่มโอกาสได้สัมภาษณ์กว่า 90 เปอร์เซ็นต์
คลิกอ่านเพิ่มเติม >> https://jobbkk.com/go/ZOylc
ค้นหางานสำหรับนักศึกษาจบใหม่ทุกสายงาน ทั่วประเทศ คลิก >> https://jobbkk.com/go/IBnyz
มีโอกาสได้งานทันที เพียงสมัครเรซูเม่วันนี้ ฟรี คลิก >> https://jobbkk.com/go/jWldX
หางานด่วน เปิดรับกว่า 157,188 อัตรา คลิก >> https://jobbkk.com/go/YtvVO
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
